ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันศุกร์ (8 ธ.ค.) ที่ระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ โดยการดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมันดิบได้หนุนหุ้นกลุ่มน้ำมัน
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,554.47 จุด เพิ่มขึ้น 40.75 จุด หรือ +0.54% และปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน
หุ้นกลุ่มพลังงาน พุ่งขึ้น 1.6% หลังซาอุดีอาระเบียและรัสเซียเรียกร้องให้สมาชิกโอเปกพลัสเข้าร่วมการปรับลดการผลิต ซึ่งหนุนราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้น
บรรดานักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปที่การประชุมธนาคารกลางต่าง ๆ ในสัปดาห์หน้า โดยนักลงทุนรอการลงมติกำหนดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และธนาคารกลางยุโรป (ECB)
สำหรับการเคลื่อนไหวของหุ้นรายตัวนั้น หุ้นเซนส์เบอรี บวก 1.6% หลังโกลด์แมน แซคส์ ปรับเพิ่มคำแนะนำลงทุนหุ้นตัวนี้เป็น "ซื้อ" จาก "คงน้ำหนักการลงทุน"
แต่หุ้นแองโกล อเมริกัน ร่วง 19% สวนทางตลาด แตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี และเป็นหุ้นในดัชนี FTSE 100 ที่ปรับตัวลงมากที่สุด หลังเปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าที่จะลดการใช้จ่ายทุนลง 1.8 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2569 และจะลดการผลิตของคุมบา ไอออน ออร์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือในแอฟริกาใต้ เนื่องจากสต็อกแร่เหล็กพุ่งขึ้นหลังจากปัญหาด้านการขนส่งทางรถไฟรุนแรงขึ้น
ส่วนหุ้นอิมพีเรียล แบรนด์ส ซึ่งเป็นบริษัทผลิตบุหรี่และซิการ์ ร่วงลงเกือบ 2% หลัง RBC ปรับลดคำแนะนำลงทุน