ตลาดหุ้นเอเชียเปิดภาคเช้าไร้ทิศทางในวันนี้ (13 ธ.ค.) ขณะที่ นักลงทุนประเมินดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ (ทังกัน) จากญี่ปุ่นและจับตาการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดภาคเช้าที่ระดับ 32,973.47 จุด เพิ่มขึ้น 129.77 จุด หรือ +0.40% ขณะที่ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 16,311.71 จุด ลดลง 62.79 จุด หรือ -0.38% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,997.34 จุด ลดลง 6.10 จุด หรือ -0.20%
ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ (ทังกัน) ในไตรมาส 4/2566 ปรับตัวขึ้นแตะระดับ 12 จากระดับ 9 ในไตรมาส 3 ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันสามไตรมาส และบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นมีการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ ดัชนีทังกันประจำไตรมาส 4 ซึ่งครอบคลุมถึงผู้ผลิตรถยนต์และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์นั้น อยู่ในระดับสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวเกียวโดคาดการณ์ไว้ที่ระดับ 10
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นของกลุ่มบริษัทนอกภาคการผลิตซึ่งรวมถึงภาคบริการนั้น เพิ่มขึ้นแตะระดับ 30 ในไตรมาส 4 จากระดับ 27 ในไตรมาส 3
นักลงทุนจับตาผลการประชุมเฟดซึ่งจะมีการแถลงในวันนี้ (13 ธ.ค.) ตามเวลาสหรัฐ รวมทั้งจับตาการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด (dot plot) และถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปี 2567
ทั้งนี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลข CPI นักลงทุนเทน้ำหนักเกือบ 100% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมครั้งนี้ แต่ข้อมูลล่าสุดจาก FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนได้ลดน้ำหนักในการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค. 2567 และเพิ่มน้ำหนักให้กับการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ค. 2567