ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเล็กน้อยในวันพุธ (13 ธ.ค.) โดยเงินปอนด์อ่อนค่าลงหลังการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจของอังกฤษหดตัวลงในเดือนต.ค. ขณะที่นักลงทุนรอการตัดสินใจกำหนดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังตลาดลอนดอนปิดทำการ
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,548.44 จุด เพิ่มขึ้น 5.67 จุด หรือ +0.08%
เงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงหนุนหุ้นกลุ่มส่งออกรายใหญ่ที่มีรายได้เป็นดอลลาร์ อาทิ แอสตร้าเซเนก้า ซึ่งพุ่งขึ้นกว่า 2%
แต่หุ้นกลุ่มรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ ร่วงลง 3.7% สวนทางตลาด สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน
ปอนด์อ่อนค่าลง 0.3% แตะ 1.2522 ดอลลาร์ หลังข้อมูลอย่างเป็นทางการบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจอังกฤษหดตัวลงในเดือนต.ค. ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะถดถอย
ส่วนโกลด์แมน แซคส์ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของอังกฤษในปีนี้ลงสู่ 0.5% จากเดิมที่ 0.6%
บรรดานักลงทุนรอเฟดประกาศมติอัตราดอกเบี้ยหลังปิดตลาดในวันพุธ และจะจับตาธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประชุมนโยบายการเงินในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งคาดว่าทั้งสองธนาคารจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิม
หลังจากปิดตลาดลอนดอน คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดมีมติเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 22 ปี
สำหรับการเคลื่อนไหวของหุ้นรายตัวนั้น หุ้นเอ็นเทน ซึ่งเป็นบริษัทด้านการพนันและเกมพุ่ง 5.1% หลังเปิดเผยว่า เจ็ตต์ นีการ์ด-แอนเดอร์เซน ซีอีโอของบริษัทจะลาออกจากตำแหน่งโดยมีผลในทันที