ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันจันทร์ (18 ธ.ค.) หลังปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่หุ้นกลุ่มรถยนต์ร่วงลง และความเห็นจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้บดบังความหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงต้นปีหน้า
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 475.32 จุด ลดลง 1.29 จุด หรือ -0.27%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,568.86 จุด ลดลง 28.05 จุด หรือ -0.37%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,650.55 จุด ลดลง 100.89 จุด หรือ -0.60% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,614.48จุด เพิ่มขึ้น 38.12 จุด หรือ +0.50%
ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวลง หลังจากปรับตัวขึ้นติดต่อกันนาน 5 สัปดาห์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเม.ย.
ตลาดถูกกดดันหลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยุโรปปรับตัวขึ้น เนื่องจากความเห็นของเจ้าหน้าที่ ECB ได้ทำลายความหวังของนักลงทุนที่คาดว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างเร็วที่สุดในเดือนมี.ค.
นายปีเตอร์ คาซิเมียร์ ประธานธนาคารกลางสโลวาเกียกล่าวว่า การพูดถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ ECB นั้นยังเร็วเกินไป ขณะที่นายบอสยัน วาซเล่ กรรมการของ ECB กล่าวว่า ECB จำเป็นจะต้องรอจนถึงฤดูใบไม้ผลิก่อนที่จะสามารถประเมินแนวโน้มนโยบาย
ตลาดหุ้นต่าง ๆ ทะยานขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตรึงอัตราดอกเบี้ยไม่เปลี่ยนแปลงตามคาด และคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 3 ครั้งในปีหน้า
หุ้นกลุ่มรถยนต์ถ่วงตลาดลง โดยหุ้นเมอร์เซเดส เบนซ์และหุ้นบีเอ็มดับบลิว กรุ๊ป ร่วงมากกว่า 1% หลังรัฐบาลเยอรมนีได้ตัดสินใจที่จะยุติโครงการจ่ายเงินอุดหนุนให้ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า
หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น 1.1% สวนทางตลาด หลังราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น 3% เนื่องจากการโจมตีที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มฮูตีของเยเมนต่อเรือต่าง ๆ ในทะเลแดงส่งผลกระทบต่อการค้าทางทะเล
ในสัปดาห์นี้ นักลงทุนจะจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนพ.ย.ของยูโรโซน, การประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และการเปิดเผยดัชนีการใช้จ่ายส่วนบุคคลเดือนพ.ย.ของสหรัฐ ซึ่งเป็นดัชนีบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อที่เฟดพิจารณาในการกำหนดนโยบายการเงิน