ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าผสมผสานในวันนี้ (19 ธ.ค.) หลังธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายการเงินในการประชุมวันนี้ ซึ่งรวมถึงการตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษ
ดัชนีฮั่งเส็งปิดภาคเช้าที่ระดับ 16,527.75 จุด ลดลง 101.48 จุด หรือ -0.61%, ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 32,799.78 จุด เพิ่มขึ้น 40.80 จุด หรือ +0.12% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,930.18 จุด ลดลง 0.62 จุด หรือ -0.02%
หลังเสร็จสิ้นการประชุมระยะเวลา 2 วันในวันนี้ คณะกรรมการ BOJ มีมติอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ -0.1% และยังคงให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นประเภทอายุ 10 ปีเคลื่อนไหวที่ระดับราว 0%
นอกจากนี้ BOJ ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (YCC) จากการประชุมเมื่อวันที่ 31 ต.ค. โดยกำหนดเพดานกรอบบนของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีที่ระดับ 1.0% และให้ระดับดังกล่าวเป็นระดับอ้างอิง หรือ"reference point" เพื่อให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวสามารถปรับตัวขึ้นได้อีก และเพื่อสะท้อนถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจได้ดียิ่งขึ้น
ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนธ.ค.ในวันนี้ โดยระบุว่า ในระหว่างการประชุมดังกล่าว กรรมการ RBA ได้หารือกันว่าควรจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% หรือคงอัตราดอกเบี้ยไว้ระดับเดิมที่ 4.35% แต่จำนวนกรรมการที่สนับสนุนการคงอัตราดอกเบี้ยมีมากกว่า จึงทำให้ท้ายที่สุด คณะกรรมการ RBA มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.35% ในการประชุมเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.
ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาธนาคารกลางจีนเตรียมประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ในสัปดาห์นี้