ดาวโจนส์พุ่งกว่า 100 จุด ขานรับตัวเลขเริ่มต้นสร้างบ้านสูงกว่าคาด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 19, 2023 22:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุด หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเริ่มต้นสร้างบ้านสูงกว่าคาด ทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะไม่เผชิญภาวะถดถอย แต่จะชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป หรือซอฟต์แลนดิ้ง

ณ เวลา 22.37 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 37,463.42 จุด บวก 157.40 จุด หรือ 0.42%

นอกจากนี้ ตลาดได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

ทั้งนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์จะช่วยเพิ่มกำไรของบริษัทจดทะเบียนที่มีรายได้จากต่างประเทศ ส่วนการปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ซึ่งเป็นพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ใช้อ้างอิงในการกำหนดราคาของตราสารหนี้ทั่วโลก ซึ่งรวมถึงอัตราดอกเบี้ยจำนองของสหรัฐ จะทำให้ผู้บริโภคมีเงินสำหรับการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น และช่วยลดต้นทุนการชำระหนี้ของบริษัทต่างๆ ทำให้บริษัทเหล่านี้สามารถเพิ่มการลงทุน และเพิ่มการจ่ายเงินปันผลแก่นักลงทุน

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านพุ่งขึ้น 14.8% สู่ระดับ 1.56 ล้านยูนิตในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.36 ล้านยูนิต

ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวลงของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง

ดัชนีดาวโจนส์, S&P 500 และ Nasdaq ปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 7 สัปดาห์ ขณะที่พุ่งขึ้น 3.8%, 3.8% และ 4.8% ตามลำดับในเดือนนี้ โดยได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณยุติวัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า

FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่า เฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค.2567 และเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยจำนวน 6 ครั้งในปี 2567 โดยปรับลดครั้งละ 0.25% รวม 1.50% มากกว่าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 0.75%

นักลงทุนจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ที่จะมีการเปิดเผยในวันศุกร์ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE ทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.8% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 3.0% ในเดือนต.ค.

เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี PCE ทั่วไป ไม่เปลี่ยนแปลงในเดือนพ.ย. หรือปรับตัวขึ้น 0.0% จากระดับ 0.0% เช่นกันในเดือนต.ค.

ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน คาดว่าปรับตัวขึ้น 3.4% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 3.5% ในเดือนต.ค.

เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี PCE พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ย. หลังจากปรับตัวขึ้น 0.2% เช่นกันในเดือนต.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ