ตลาดหุ้นเอเชียเปิดภาคเช้าลบในวันนี้ (21 ธ.ค.) โดยเคลื่อนไหวตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวลงในวันพุธ (20 ธ.ค.) ขณะที่นักลงทุนรอการเปิดเผยข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2566 และตัวเลขเงินเฟ้อจากสหรัฐ
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดภาคเช้าที่ระดับ 33,276.81 จุด ลดลง 399.13 จุด หรือ -1.19% ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 16,455.14 จุด ลดลง 158.67 จุด หรือ -0.96% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,892.02 จุด ลดลง 10.09 จุด หรือ -0.35%
นักเศรษฐศาสตร์ในผลสำรวจที่จัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่า GDP สหรัฐจะขยายตัว 5.2% ในไตรมาส 3/2566 เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 2.3% ในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งเป็นการปรับขึ้นแบบชะลอตัวที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 4/2563
นักลงทุนในเอเชียจะประเมินดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) จากเกาหลีใต้ เช่นเดียวกับการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากธนาคารกลางอินโดนีเซียในวันนี้
ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันพุธ (20 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากตลาดพุ่งขึ้นติดต่อกันหลายวัน ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ซึ่งเป็นข้อมูลเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 37,082.00 จุด ลดลง 475.92 จุด หรือ -1.27%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,698.35 จุด ลดลง 70.02 จุด หรือ -1.47% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,777.94 จุด ลดลง 225.28 จุด หรือ -1.50%