ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันพฤหัสบดี (21 ธ.ค.) จากแรงขายทำกำไรหลังบวกขึ้น 3 วันติดต่อกัน และปรับตัวลงตามตลาดหุ้นสหรัฐที่ร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันพุธ หลังจากก่อนหน้านี้ตลาดหุ้นทั่วโลกได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางรายใหญ่ต่าง ๆ จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีหน้า
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,694.73 จุด ลดลง 20.95 จุด หรือ -0.27%
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลงหลังจากบวกขึ้นต่อเนื่อง 3 วัน โดยได้แรงหนุนจากเงินเฟ้อของอังกฤษที่ลดลงเกินคาด
หุ้นกลุ่มสินค้าส่วนบุคคล ปรับตัวลงมากที่สุด โดยร่วงลง 3.2% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ขณะที่หุ้นกลุ่มรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ บวก 0.6% ซึ่งช่วยลดช่วงติดลบของตลาด
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกถ่วงลงจากการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ยอดขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนพ.ย. และการกู้ยืมในช่วงหลายเดือนก่อนได้ถูกปรับเพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งตอกย้ำว่ารัฐบาลอังกฤษมีโอกาสที่จำกัดในการปรับลดภาษีลงก่อนการเลือกตั้ง
สำหรับการเคลื่อนไหวของหุ้นรายตัวนั้น หุ้นบริติช อเมริกัน โทแบคโค, หุ้นฮัลมา และหุ้นยูไนเต็ด ยูทิลิตี กรุ๊ป ปรับตัวลง 0.4-3.0% เนื่องจากขึ้นเครื่องหมาย XD ซึ่งผู้ซื้อหุ้นไม่มีสิทธิได้รับเงินปันผลที่จะมีการจ่ายงวดล่าสุด
หุ้นเบอเบอร์รี ร่วงลงมากที่สุด 4.2% หลังมอร์แกน สแตนลีย์ ปรับลดราคาเป้าหมายหุ้นเบอเบอร์รี