ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 100 จุดในวันนี้ ซึ่งเป็นการซื้อขายวันแรกของสัปดาห์สุดท้ายในปีนี้
ณ เวลา 22.37 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 37,493.89 จุด บวก 107.92 จุด หรือ 0.29%
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการวานนี้ เนื่องในเทศกาลคริสต์มาส หลังจากทำสถิติปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 8 สัปดาห์ โดยได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.2567 และเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยจำนวน 6 ครั้งในปี 2567 โดยปรับลดครั้งละ 0.25% รวม 1.50% มากกว่าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 0.75%
ตลาดจับตาปรากฎการณ์ "ซานต้า แรลลี่" ในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปีนี้ ซึ่งมักเกิดขึ้นเป็นเวลา 7 วันทำการ โดยมีขึ้นในช่วง 5 วันทำการสุดท้ายของปีปัจจุบัน รวมทั้ง 2 วันแรกของปีใหม่
ข้อมูลจาก Stock Trader's Almanac ระบุว่า นับตั้งแต่ปี 2512 ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 1.3% ในช่วงเวลา 7 วันดังกล่าว
การซื้อขายในตลาดวันนี้ได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาบ้านสหรัฐในเดือนต.ค. ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะไม่เผชิญภาวะถดถอย แต่จะชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป หรือซอฟต์แลนดิ้ง
ผลสำรวจของเอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์ บ่งชี้ว่า ราคาบ้านในสหรัฐปรับตัวขึ้นในเดือนต.ค.
ทั้งนี้ ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐพุ่งขึ้น 4.8% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดในปีนี้ จากระดับ 4.0% ในเดือน.ก.ย.
ส่วนดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 4.9% ในเดือนต.ค. จากระดับ 3.9% ในเดือนก.ย.