ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าบวกเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ (28 ธ.ค.) โดยหุ้นออสเตรเลียเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปีและตลาดหุ้นจีนปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 แม้หุ้นญี่ปุ่นปรับลดลง หลังพุ่งขึ้นเมื่อวันพุธ (27 ธ.ค.)
ดัชนีฮั่งเส็งปิดภาคเช้าที่ระดับ 16,876.69 จุด เพิ่มขึ้น 251.85 จุด หรือ +1.51%, ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 33,503.94 จุด ลดลง 177.30 จุด หรือ -0.53% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,947.01 จุด เพิ่มขึ้น 32.39 จุด หรือ +1.11%
ดัชนี S&P/ASX 200 ของตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวขึ้น 0.33% ซึ่งอยู่ที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนเม.ย. 2565 และมีแนวโน้มพุ่งขึ้น 7.7% ในปีนี้
ดัชนีนิกเกอิของตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลงในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มส่งออกหลังเงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐลดลง
กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ (28 ธ.ค.) ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นลดลง 0.9% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 3 เดือน เนื่องจากการผลิตยานยนต์และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ปรับตัวลดลง
อย่างไรก็ดี การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนพ.ย.ของญี่ปุ่นปรับตัวลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะร่วงลง 1.6%
กระทรวงฯได้เปิดเผยผลสำรวจความเห็นของกลุ่มผู้ผลิตซึ่งพบว่า ผู้ผลิตของญี่ปุ่นคาดการณ์ว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมจะเพิ่มขึ้น 6% ในเดือนธ.ค. ก่อนที่จะปรับตัวลง 7.2% ในเดือนม.ค. 2567
นอกจากนี้ กระทรวงฯเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 5.3% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งใกล้เคียงกับการคาดการณ์ของตลาดที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5.0% และเป็นการเพิ่มขึ้นเดือนที่ 21 ติดต่อกัน หรือนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2565
ส่วนเมื่อเทียบเป็นรายเดือน ยอดค้าปลีกของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 1.0% ในเดือนพ.ย. หลังจากที่ลดลง 1.7% ในเดือนต.ค.