ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเล็กน้อยในวันศุกร์ (29 ธ.ค.) ซึ่งเป็นวันซื้อขายวันสุดท้ายของปี 2566 เนื่องจากนักลงทุนขายหุ้นออกมาเพื่อทำกำไร หลังจากตลาดทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงสิ้นปีนี้ขานรับการคาดการณ์ที่ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีหน้า
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 37,689.54 จุด ลดลง 20.56 จุด หรือ -0.05%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,769.83 จุด ลดลง 13.52 จุด หรือ -0.28% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,011.35 จุด ลดลง 83.78 จุด หรือ -0.56%
ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นอย่างมากในช่วงเดือนท้าย ๆ ของปี 2566 ส่งผลให้ดัชนีหุ้นทั้ง 3 ตัวปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบเป็นรายเดือน รายไตรมาส และรายปี อย่างไรก็ตาม ตลาดปรับตัวลงในวันศุกร์ซึ่งเป็นวันซื้อขายวันสุดท้ายของปี 2566 เนื่องจากมีแรงขายทำกำไรและการปรับสถานะการลงทุนก่อนขึ้นปีใหม่
ดัชนีหุ้นทั้ง 3 ตัวปรับตัวขึ้น 9 สัปดาห์ติดต่อกันแล้ว ซึ่งยาวนานที่สุดสำหรับดัชนี S&P500 นับตั้งแต่เดือนม.ค. 2547 และยาวนานที่สุดสำหรับดัชนีดาวโจนส์และดัชนี Nasdaq นับตั้งแต่ต้นปี 2562
อย่างไรก็ตาม ดัชนี S&P500 ยังคงปิดต่ำกว่าระดับปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้เมื่อวันที่ 3 ม.ค. 2565 ที่ระดับ 4,796.56 จุดอยู่ราว 1%
ตลาดหุ้นสหรัฐทะยานขึ้นในช่วงสิ้น 2566 หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า หลังจากที่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทำให้เงินเฟ้อลดลงสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%
ในบรรดาหุ้น 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 นั้น กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลงเป็นเปอร์เซ็นต์มากที่สุด ขณะที่กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และกลุ่มเฮลท์แคร์เป็นเพียง 2 กลุ่มที่ปรับตัวขึ้น
ในรอบปี 2566 หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี, กลุ่มบริการด้านการสื่อสาร และกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยปรับตัวโดดเด่น ขณะที่กลุ่มสาธารณูปโภค, กลุ่มพลังงาน และกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ปรับตัวลง
สำหรับการเคลื่อนไหวของหุ้นรายตัวนั้น หุ้นอูเบอร์ เทคโนโลยีส์ ร่วงลง 2.5% และหุ้นลิฟต์ ร่วง 3.5% หลังมีรายงานว่า บริษัทโนมูระได้ปรับลดคำแนะนำลงทุนหุ้นทั้งสองตัวดังกล่าว
ตลาดหุ้นสหรัฐจะปิดทำการในวันจันทร์ที่ 1 ม.ค.เนื่องในวันปีใหม่