ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าไร้ทิศทางในวันนี้ (2 ม.ค.) ขณะที่ นักลงทุนประเมินตัวเลขภาคการผลิตจีน ทั้งตัวเลขของทางการจีนและผลสำรวจจากภาคเอกชน
ดัชนีฮั่งเส็งปิดภาคเช้าที่ระดับ 16,800.73 จุด ลดลง 246.66 จุด หรือ -1.45% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,968.70 จุด ลดลง 6.24 จุด หรือ -0.21%
ดัชนี S&P/ASX 200 ของตลาดหุ้นออสเตรเลีย ปรับตัวขึ้น 0.4% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี
ส่วนดัชนี Kospi ของตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ขยับขึ้น 0.1% ส่วนดัชนี Kosdaq บวก 0.56%
ตลาดหุ้นโตเกียวปิดทำการวันนี้ (2 ม.ค.) เนื่องในวันหยุดตลาดหลักทรัพย์
ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยไฉซินและเอสแอนด์พี โกลบอล เซอร์วิสระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนธ.ค.ของจีนขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ภายในประเทศที่แข็งแกร่งขึ้น
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนเพิ่มขึ้นแตะระดับ 50.8 ในเดือนธ.ค. จากระดับ 50.7 ในเดือนพ.ย. โดยดัชนีที่สูงกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนมีการขยายตัว และเป็นการขยายตัวติดต่อกันเดือนที่ 2
อย่างไรก็ดี ผลสำรวจของไฉซินออกมาตรงข้ามกับที่สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานเมื่อวันอาทิตย์ (31 ธ.ค.) ว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตปรับตัวลดลงแตะ 49.0 ในเดือนธ.ค. จากระดับ 49.4 ในเดือนพ.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 49.5 โดยดัชนีต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนอยู่ในภาวะหดตัว และเป็นการหดตัวติดต่อกันเดือนที่ 3
ข้อมูลเบื้องต้นจากรัฐบาลสิงคโปร์เปิดเผยในวันนี้ (2 ม.ค.) ว่า เศรษฐกิจสิงคโปร์ในไตรมาสที่ 4 ปี 2566 ขยายตัว 2.8% เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวดีขึ้นของภาคก่อสร้างและภาคการผลิต
การเติบโตในไตรมาสที่ 4 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เพิ่มขึ้นจากการขยายตัว 1% ในไตรมาสที่ 3 ปี 2566
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาภาพรวมทั้งปี 2566 แล้ว GDP สิงคโปร์เติบโตที่ 1.2% ชะลอลงจากการเติบโต 3.6% ในปี 2565