ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าไร้ทิศทางในวันนี้ (5 ม.ค.) เนื่องจากตลาดขาดปัจจัยหนุนใหม่ ๆ หลังปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่ในการซื้อขายสองวันแรกของปีนี้ ขณะที่นักลงทุนจะจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในวันนี้ เช่น ตัวเลขเงินเฟ้อจากไทยและฟิลิปปินส์ รวมถึงยอดค้าปลีกจากสิงคโปร์
ดัชนีฮั่งเส็งปิดภาคเช้าที่ระดับ 16,622.45 จุด ลดลง 23.53 จุด หรือ -0.14%, ดัชนีนิกเกอิปิดภาคเช้าที่ระดับ 33,442.62 จุด เพิ่มขึ้น 154.33 จุด หรือ +0.46% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,950.61 จุด ลดลง 3.74 จุด หรือ -0.13%
ดัชนี S&P/ASX 200 ของตลาดหุ้นออสเตรเลีย ปรับตัวขึ้น 0.12% ในวันนี้ หลังลดลงติดต่อกัน 2 วัน
ดัชนี Kospi ของตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปรับตัวลง 0.06% ขณะที่ ดัชนี Kosdaq พุ่งขึ้น 1.12%
ภาคบริการของญี่ปุ่นขยายตัวในเดือนธ.ค. 2566 มากขึ้นกว่าเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นผลจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งและความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่เพิ่มขึ้น โดยถือเป็นการขยายตัว 16 เดือนติดต่อกัน แม้ว่าอัตราการขยายตัวโดยรวมอยู่ในระดับปานกลางก็ตาม
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานในวันนี้ (5 ม.ค.) ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนธ.ค.จาก Jibun Bank ของญี่ปุ่น เพิ่มขึ้นเป็น 51.5 จาก 50.8 ในเดือนพ.ย. แต่ต่ำกว่าเล็กน้อยจากประมาณการเบื้องต้นที่ระดับ 52.0
ทั้งนี้ ดัชนี PMI ยังคงสูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวในภาคบริการของญี่ปุ่น โดยส่วนใหญ่เกิดจากปริมาณธุรกิจใหม่ที่เพิ่มขึ้นจากลูกค้าในประเทศ ขณะเดียวกัน ดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนธ.ค.ของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเป็น 50.0 จาก 49.6 ในเดือนพ.ย. ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดผสมผสานในวันพฤหัสบดี (4 ม.ค.) โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 37,440.34 จุด เพิ่มขึ้น 10.15 จุด หรือ +0.03%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,688.68 จุด ลดลง 16.13 จุด หรือ -0.34% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,510.30 จุด ลดลง 81.91 จุด หรือ -0.56%