ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันศุกร์ (5 ม.ค.) และปรับตัวลงในสัปดาห์นี้เป็นครั้งแรกในรอบ 8 สัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกับการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจทั่วโลกที่เป็นไปอย่างไร้ทิศทาง ซึ่งทำให้ตลาดเริ่มต้นปีไม่ราบรื่นหลังจากทะยานขึ้นอย่างมากในปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 476.38 จุด ลดลง 1.30 จุด หรือ -0.27% และปรับตัวลง 0.5% ในรอบสัปดาห์นี้
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,420.69 จุด ลดลง 29.94 จุด หรือ -0.40%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,594.21 จุด ลดลง 23.08 จุด หรือ -0.14% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,689.61 จุด ลดลง 33.46 จุด หรือ -0.43%
หุ้นกลุ่มค้าปลีก และกลุ่มเคมีภัณฑ์ปรับตัวลงมากที่สุด และกลุ่มค้าปลีกนำตลาดลดลงในสัปดาห์นี้ แต่หุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มสื่อช่วยพยุงตลาดโดยปรับตัวขึ้น 0.4% และ 0.3% ตามลำดับ
หุ้นเรมี คอนโทร และหุ้นเพอร์นอด ริคาร์ด ซึ่งเป็นบริษัทสุราของฝรั่งเศส ร่วง 12% และ 3.6% ตามลำดับ หลังจีนประกาศเปิดการสอบสวนการทุ่มตลาดบรั่นดีที่นำเข้าจากสหภาพยุโรป
ตลาดถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลยอดค้าปลีกของเยอรมนีที่ลดลงเกินคาดในเดือนพ.ย. ขณะที่เงินเฟ้อของยูโรโซนที่พุ่งขึ้นตามคาดในเดือนธ.ค.นั้นสนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงต่อไป
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่สหรัฐเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนธ.ค. และภาคบริการของสหรัฐชะลอตัวลงอย่างมากในเดือนธ.ค.