ดัชนีดาวโจนส์พลิกดีดตัวสู่แดนบวก หลังร่วงลงกว่า 100 จุดในการซื้อขายช่วงแรก
ณ เวลา 01.07 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 37,475.02 จุด บวก 8.01 จุด หรือ 0.02%
ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 100 จุดในการซื้อขายช่วงแรก โดยได้รับผลกระทบจากการดิ่งลงของราคาหุ้นโบอิ้ง
ราคาหุ้นโบอิ้งดิ่งลงกว่า 9% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทวันนี้ หลังจากที่สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ (FAA) มีคำสั่งระงับการใช้งานเครื่องบินโบอิ้ง 737 MAX 9 เพื่อตรวจสอบความปลอดภัย
FAA ออกคำสั่งดังกล่าวเมื่อวันที่ 6 ม.ค. เพียงหนึ่งวันหลังเครื่องบินโบอิ้ง 737 MAX 9 ของสายการบินอลาสก้า แอร์ไลน์ประสบเหตุชิ้นส่วนบริเวณผนังเครื่องบินหลุดกลางอากาศ หลังเพิ่งออกเดินทางจากสนามบินในเมืองพอร์ตแลนด์ของรัฐออริกอนในสหรัฐได้ไม่นาน ส่งผลให้เกิดช่องโหว่ขนาดใหญ่บริเวณลำตัวเครื่องบิน และต้องร่อนลงจอดฉุกเฉิน
นอกจากนี้ ดัชนีดาวโจนส์ถูกกดดัน หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานสูงกว่าคาดเมื่อวันศุกร์ ซึ่งจะเป็นปัจจัยทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงนานกว่าที่คาดไว้
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 216,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 170,000 ตำแหน่ง และเพิ่มขึ้นจากระดับ 173,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ส่วนอัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 3.7% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.8%
นักลงทุนลดน้ำหนักต่อการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนมี.ค.2567 หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่สูงกว่าคาด
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักเพียง 60.9% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 19-20 มี.ค.2567 หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วให้น้ำหนักมากถึง 73.4%
ตลาดจับตาดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนธ.ค.ในวันพฤหัสบดีเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ