ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันอังคาร (9 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยง หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลปรับตัวขึ้น แม้หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ซึ่งปรับตัวขึ้นได้ช่วยลดช่วงติดลบของตลาดก็ตาม
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 477.26 จุด ลดลง 0.92 จุด หรือ -0.19%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,426.62 จุด ลดลง 23.62 จุด หรือ -0.32%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,688.36 จุด ลดลง 28.11 จุด หรือ -0.17% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,683.96 จุด ลดลง 10.23 จุด หรือ -0.13%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลทั่วยุโรปปรับตัวขึ้น โดยหุ้นกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานร่วงลง 1.4% และหุ้นกลุ่มธนาคารลดลง 0.8% หลังบวก 3 วันติดต่อกัน
แต่หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ปรับตัวขึ้นต่อเป็นวันที่สอง โดยบวก 0.7% ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 17 สัปดาห์ที่เข้าทดสอบเมื่อวันจันทร์ โดยหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 15% ของดัชนีหุ้นยุโรป
นอกจากนี้ ตลาดถูกกดดันหลังเยอรมนีเปิดเผยข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงเกินคาดในเดือนพ.ย. โดยลดลงเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน
ส่วนข้อมูลอัตราการว่างงานของยูโรโซนนั้นลดลงเกินคาดสู่ระดับ 6.4% ในเดือนพ.ย. ต่ำกว่าคาดการณ์ที่ระดับ 6.5%
สำหรับจุดสนใจของตลาดในสัปดาห์นี้อยู่ที่การเริ่มต้นฤดูการรายงานผลประกอบการในสหรัฐ และการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งอาจเป็นปัจจัยกำหนดทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลก
ด้านธนาคารยูบีเอสได้ปรับเพิ่มเป้าหมายในปีนี้ของดัชนี STOXX 600 ขึ้นสู่ระดับ 450 จุด จากเดิมที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ที่ 410 จุด ซึ่งเป้าหมายใหม่ดังกล่าวยังคงต่ำกว่าระดับในปัจจุบันอยู่ราว 6%