ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันศุกร์ (12 ม.ค.) เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรลดลง หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งเพิ่มความหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางรายใหญ่อื่นๆ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างเร็วที่สุดในเดือนมี.ค. นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากหุ้นแอร์บัสที่พุ่งขึ้นหลังจากรายงานยอดสั่งซื้อเครื่องบินต่อปีสูงเป็นประวัติการณ์
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 476.76 จุด เพิ่มขึ้น 3.99 จุด หรือ +0.84%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,465.14 จุด เพิ่มขึ้น 77.52 จุด หรือ +1.05%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,704.56 จุด เพิ่มขึ้น 157.53 จุด หรือ +0.95% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,624.93 จุด เพิ่มขึ้น 48.34 จุด หรือ +0.64%
ตลาดหุ้นยุโรปฟื้นตัวขึ้นหลังจากร่วงลง 3 วัน และปรับตัวขึ้นวันเดียวมากที่สุดนับตั้งแต่ต้นปีนี้ แม้ตลาดปิดทรงตัวในรอบสัปดาห์นี้ก็ตาม หุ้นบวกนำตลาดได้แก่กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมและบริการซึ่งพุ่งขึ้น 1.7% ขณะที่กลุ่มสื่อพุ่งขึ้น 1.7% ด้วยเช่นกัน
สหรัฐเปิดเผยดัชนี PPI ลดลงเกินคาดในเดือนธ.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อจะยังคงลดลง และเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลทั่วยุโรปปรับตัวลงตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ เนื่องจากนักลงทุนปรับเพิ่มการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของอังกฤษขยายตัวมากกว่าคาดเล็กน้อยในเดือนพ.ย. และอัตราเงินเฟ้อของสเปนลดลงสู่ระดับ 3.1% ในเดือนธ.ค.
หุ้นกลุ่มการบินอวกาศและการป้องกัน พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ 2.8%
หุ้นแอร์บัส พุ่ง 3.7% หลังรายงานยอดสั่งซื้อเครื่องบินรายปีสูงเป็นประวัติการณ์และการส่งมอบในปี 2566 เพิ่มขึ้น 11%
หุ้นกลุ่มน้ำมันและก๊าซปรับตัวขึ้น 0.9% เนื่องจากราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเกือบ 2% หลังจากเรือบรรทุกน้ำมันบางลำ ต้องเลี่ยงการเดินทางผ่านทะเลแดง หลังจากสหรัฐและอังกฤษร่วมกันโจมตีทั้งทางอากาศและทางทะเลต่อเป้าหมายของกลุ่มฮูตีในเยเมน