ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ (15 ม.ค.) โดยหุ้นจีนพลิกปรับตัวขึ้นหลังธนาคารกลางจีนประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปีซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีนเอาไว้ที่ระดับ 2.50%
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 16,219.55 จุด ลดลง 25.03 จุด หรือ -0.15%, ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,892.28 จุด เพิ่มขึ้น 10.30 จุด หรือ +0.36% และดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าที่ระดับ 35,870.73 จุด เพิ่มขึ้น 293.62 จุด หรือ +0.83%
ธนาคารกลางจีนประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปีซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีนเอาไว้ที่ระดับ 2.50% ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าธนาคารกลางจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวลง 0.10% สู่ระดับ 2.40% เพื่อรับมือกับภาวะเงินฝืดและกระตุ้นการปล่อยกู้เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ดัชนีหุ้นหลักของไต้หวันปรับตัวขึ้นในวันนี้ หลังนายไล่ ชิงเต๋อ รองประธานาธิบดีไต้หวันและหัวหน้าพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) ได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวัน ซึ่งทำให้มีประธานาธิบดีจากพรรค DPP เป็นสมัยที่ 3
ดัชนี Taiwan Weighted Index ของไต้หวัน ปรับตัวขึ้น 0.52% หลังนายไล่ ชิงเต๋อชนะศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
นักลงทุนจับตาจีนเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) สำหรับไตรมาส 4/2566 ในวันพุธที่ 17 ม.ค. ขณะที่ ญี่ปุ่นจะเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อสำหรับเดือนธ.ค.ในวันศุกร์ที่ 19 ม.ค.