ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวลดลงเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ (17 ม.ค.) หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัวต่ำกว่าคาดในไตรมาส 4/2566
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 15,419.68 จุด ลดลง 446.24 จุด หรือ -2.81% ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,875.60 จุด ลดลง 18.39 จุด หรือ -0.64% และดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าที่ระดับ 35,810.35 จุด เพิ่มขึ้น 191.17 จุด หรือ +0.54%
ดัชนี S&P/ASX 200 ของตลาดหุ้นออสเตรเลีย ปรับตัวลดลง 0.27% ซึ่งเป็นการปรับลดลงติดต่อกันเป็นวันที่ 4
ดัชนี Kospi ของตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปรับตัวลดลงกว่า 2% ส่วนดัชนี Kosdaq ปรับตัวลดลง 2.25%
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) รายงานในวันนี้ (17 ม.ค.) ว่า GDP ในไตรมาส 4/2566 ขยายตัว 5.2% ซึ่งดีกว่าในไตรมาส 3 ที่มีการขยายตัว 4.9% โดยได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลจีนเพิ่มการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างไรก็ดี ตัวเลข GDP ไตรมาส 4/2566 อยู่ในระดับต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของรอยเตอร์คาดไว้ว่าอาจจะขยายตัว 5.3%
ส่วน GDP ทั้งปี 2566 ของจีน ขยายตัว 5.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลจีนกำหนดไว้ที่ราว 5% หลังจากจีนยุติการใช้มาตรการล็อกดาวน์ป้องกันโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นมาตรการที่ส่งผลให้เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงสู่ระดับ 3% ในปี 2565