ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ร่วงลงกว่า 100 จุด บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะยังคงปรับตัวลงต่อเนื่องจากวานนี้
ณ เวลา 18.19 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 169 จุด หรือ 0.45% สู่ระดับ 37,384 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ดิ่งลงกว่า 200 จุดวานนี้ โดยถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่พุ่งขึ้นเหนือระดับ 4% รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของธนาคารสหรัฐ
นักลงทุนยังคงพากันปรับลดน้ำหนักต่อคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. ขณะที่เพิ่มน้ำหนักต่อการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในเดือนดังกล่าว หลังจากที่นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ หนึ่งในสมาชิกบอร์ดผู้ว่าการเฟด กล่าวว่า เฟดจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วตามที่ตลาดคาดการณ์
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 59.5% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 19-20 มี.ค. หลังจากที่ให้น้ำหนัก 63.1% เมื่อวานนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 39.0% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 19-20 มี.ค. หลังจากที่ให้น้ำหนัก 34.9% เมื่อวานนี้
นายวอลเลอร์กล่าวว่า เฟดมีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ อย่างไรก็ดี เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างระมัดระวัง และไม่รวดเร็วตามที่ตลาดคาดการณ์
"ตราบใดที่เงินเฟ้อไม่ดีดตัวขึ้นและทรงตัวในระดับสูง ผมเชื่อว่าเฟดจะสามารถปรับลดเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้ และผมเชื่อว่าเฟดจะดำเนินการอย่างเป็นระบบ และอย่างระมัดระวัง"
"ในวงจรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ผ่านมา เฟดดำเนินการอย่างรวดเร็วและปรับลดอัตราดอกเบี้ยจำนวนมาก แต่ในรอบนี้ ผมยังไม่เห็นเหตุผลที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วเหมือนในอดีต" นายวอลเลอร์กล่าว
ทั้งนี้ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% จำนวน 7 ครั้งในปีนี้ ขณะที่เฟดคาดการณ์ว่าจะปรับลดเพียง 3 ครั้ง
นอกจากนี้ นายวอลเลอร์ระบุว่า เขาคาดว่าเฟดจะบรรลุเป้าหมายในการทำให้เงินเฟ้อกลับสู่ระดับ 2% แต่เขายังคงขอดูข้อมูลมากขึ้น ก่อนที่จะประกาศชัยชนะเหนือเงินเฟ้อ