ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าบวกเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ (23 ม.ค.) โดยดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าพุ่งขึ้นกว่า 2% ในวันนี้ หลังจากนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีนได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้มาตรการที่แข็งแกร่งมากขึ้นในการสร้างเสถียรภาพของตลาดหุ้นและกอบกู้ความเชื่อมั่นของนักลงทุน ขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายการเงินในการประชุมวันนี้ (23 ม.ค.) ซึ่งรวมถึงการตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษ
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 15,329.90 จุด เพิ่มขึ้น 368.72 จุด หรือ +2.46%, ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,746.74 จุด ลดลง 9.60 จุด หรือ -0.35% และดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าที่ระดับ 36,920.27 จุด เพิ่มขึ้น 373.32 จุด หรือ +1.02%
ดัชนี S&P/ASX 200 ของตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวขึ้น 0.69% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นติดต่อกันวันที่ 3
ดัชนี Kospi ของตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปรับตัวขึ้น 0.61% ส่วนดัชนี Kosdaq ปรับตัวขึ้น 0.63%
ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายการเงินในการประชุมวันนี้ (23 ม.ค.) ซึ่งรวมถึงการตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษ
หลังเสร็จสิ้นการประชุมระยะเวลา 2 วันในวันนี้ คณะกรรมการ BOJ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ -0.1% และยังคงกำหนดให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นประเภทอายุ 10 ปีเคลื่อนไหวที่ระดับราว 0%
นักวิเคราะห์จากแบงก์ ออฟ อเมริกา (BofA), บาร์เคลย์ และไอเอ็นจี (ING) คาดการณ์ว่า BOJ จะไม่เปลี่ยนแปลงจุดยืนจากนโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบในการประชุมครั้งนี้ โดย BofA และบาร์เคลย์คาดการณ์ว่า BOJ จะเริ่มเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินในการประชุมเดือนเม.ย.
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (22 ม.ค.) โดยดาวโจนส์และ S&P500 ต่างก็ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขานรับแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ รวมทั้งรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์นี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,001.81 จุด เพิ่มขึ้น 138.01 จุด หรือ +0.36%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,850.43 จุด เพิ่มขึ้น 10.62 จุด หรือ +0.22% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,360.29 จุด เพิ่มขึ้น 49.32 จุด หรือ +0.32%