ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันอังคาร (23 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการลงทุนลอตใหญ่ก่อนการประชุมกำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดีนี้ (25 ม.ค.) ขณะที่การปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ได้ช่วยลดช่วงติดลบในตลาด
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 471.53 จุด ลดลง 1.33 จุด หรือ -0.28%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,388.04 จุด ลดลง 25.21 จุด หรือ -0.34%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,627.09 จุด ลดลง 56.27 จุด หรือ -0.34% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,485.73 จุด ลดลง 1.98 จุด หรือ -0.03%
ตลาดถูกกดดันจากการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในยูโรโซนลดลง 1.0 จุดในเดือนม.ค.จากเดือนธ.ค. ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมของ ECB ซึ่งคาดว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ย และบรรดาเทรดเดอร์คาดว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 1.30% ในปีนี้ และมีโอกาสเกือบ 97% ที่จะปรับลดครั้งแรกในเดือนมิ.ย.
ข้อมูลจาก LSEG บ่งชี้ว่า ผลประกอบการไตรมาส 4/2566 ของบริษัทในดัชนี STOXX 600 อาจจะลดลง 8.8% จากไตรมาส 4/2565 ซึ่งมากกว่าที่คาดไว้ในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าอาจลดลง 7.1%
หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยปรับตัวลง 0.8% และ 1.3% ตามลำดับ ขณะที่กลุ่มเฮลท์แคร์ร่วงลง 0.9%
หุ้นโลจิเทคร่วงลง 8.7% เนื่องจากนักลงทุนขายหุ้นเพื่อทำกำไร หลังจากราคาหุ้นพุ่งขึ้นในวันจันทร์สู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2564
หุ้นสวอทช์ ร่วง 4.6% หลังเปิดเผยผลประกอบการปี 2566 ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
แต่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่โลหะพื้นฐานและโลหะมีค่าบวก 2.0% สวนทางตลาด เนื่องจากราคาโลหะพื้นฐานส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น โดยราคาทองแดงได้แรงหนุนจากความหวังว่าจีนซึ่งเป็นผู้ใช้ทองแดงรายใหญ่จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น
หุ้นบริษัทสินค้าหรูหราที่พึ่งพาตลาดจีน อาทิ แอลวีเอ็มเอช, เคอริง และริชมอนด์ ปรับตัวขึ้น 1.1-1.7%