ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวลงในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีที่มีมาร์เก็ตแคปสูง
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวลง 86 จุด หรือประมาณ 0.2% ขณะที่ดัชนี S&P500 ฟิวเจอร์ และดัชนี Nasdaq ฟิวเจอร์ ปรับตัวลง 0.2% และ 0.3% ตามลำดับ
นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยี 7 แห่งที่มีมาร์เก็ตแคปสูง หรือ "Magnificent Seven" ซึ่งได้แก่ไมโครซอฟท์, แอปเปิ้ล, อัลฟาเบท, อะเมซอน, เทสลา, เมตา แพลตฟอร์มส์ และอินวิเดีย เนื่องจากที่ผ่านมา ผลประกอบการของบริษัทกลุ่มนี้เป็นแรงขับเคลื่อนตลาด
ทั้งนี้ ไมโครซอฟท์, แอปเปิ้ล, เมตา แพลตฟอร์มส์, อะเมซอน และอัลฟาเบท จะเปิดเผยผลประกอบการในสัปดาห์นี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่อย่างโบอิ้งด้วยเช่นกัน
บริษัทเทสลาเปิดเผยเมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า กำไรและรายได้ของบริษัทอยู่ในระดับต่ำกว่าคาดในไตรมาส 4/2566 ส่งผลให้ราคาหุ้นเทสลาร่วงลงเกือบ 6% ในวันดังกล่าว
นอกเหนือจากผลประกอบการแล้ว นักลงทุนยังจับตาผลการประชุมเฟดในวันที่ 30-31 ม.ค. ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 97.4% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมครั้งนี้
สหรัฐมีกำหนดเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ โดยในวันพรุ่งนี้จะเป็นการเปิดเผยดัชนีราคาบ้านเดือนพ.ย.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์, ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนธ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.จากคอนเฟอเรนซ์บอร์ด (Conference Board)
ในวันพุธจะมีการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนเดือนม.ค.จาก ADP ส่วนในวันพฤหัสบดีจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นสุดท้ายเดือนม.ค.จากเอสแอนด์พี โกลบอล, ดัชนีภาคการผลิตเดือนม.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนธ.ค.
สำหรับในวันศุกร์ สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค., ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนธ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน