ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าบวกในวันนี้ (29 ม.ค.) โดยหุ้นจีนและฮ่องกงปรับตัวขึ้น หลังจากจีนออกมาตรการใหม่ในการสร้างเสถียรภาพตลาดหุ้น อย่างไรก็ดี ข่าวด้านลบเกี่ยวกับบริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ ส่งผลให้ดัชนีฮั่งเส็งลดช่วงบวก ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) และเงินเฟ้อจากเอเชียในสัปดาห์ เช่น ตัวเลข GDP จากไต้หวันและฮ่องกง
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 16,102.02 จุด เพิ่มขึ้น 149.79 จุด หรือ +0.94%, ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,918.81 จุด เพิ่มขึ้น 8.59 จุด หรือ +0.30% และดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าที่ระดับ 36,079.14 จุด เพิ่มขึ้น 328.07 จุด หรือ +0.92%
หนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์รายงานว่า ดัชนีฮั่งเส็งดีดตัวขึ้นหลังจากตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้และตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้นประกาศระงับการทำ Short Selling หรือขายชอร์ตหุ้นบางกลุ่ม ซึ่งรวมถึงหุ้นที่อยู่ใน Lock-Up Periods หรือหุ้นที่อยู่ภายใต้เงื่อนไขการห้ามขายในระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง โดยมาตรการดังกล่าวซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันนี้ (29 ม.ค.) มีเป้าหมายที่จะกอบกู้ความเชื่อมั่นของนักลงทุน หลังจากตลาดหุ้นจีนร่วงลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี ดัชนีฮั่งเส็งลดช่วงบวก หลังจากคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงได้สั่งระงับการซื้อขายหุ้นไชน่า เอเวอร์แรนด์ ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของจีน ภายหลังจากศาลสูงฮ่องกงมีคำสั่งให้ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ทำการขายสินทรัพย์และปิดกิจการ (Liquidation)
นักลงทุนจับตาทางการฮ่องกงและไต้หวันเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 4/2566 ในวันพุธที่ 31 ม.ค. รวมทั้งจับตาผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธนี้ตามเวลาสหรัฐ
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) มีกำหนดเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการประจำเดือนม.ค.ในวันพุธที่ 31 ม.ค. เวลา 08.30 น.ตามเวลาไทย และจากนั้นในวันพฤหัสบดีที่ 1 ก.พ. ไฉซินและเอสแอนด์พี โกลบอลจะเปิดเผยผลสำรวจดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนประจำเดือนม.ค.
นอกจากนี้ ออสเตรเลียจะเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อไตรมาส 4 ในวันพุธนี้ ก่อนธนาคารกลางออสเตรเลียจะจัดประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 5 ก.พ.