ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดร่วงลงในวันนี้ โดยบรรยากาศการซื้อขายได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีน หลังจากศาลสูงฮ่องกงมีคำสั่งให้บริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ ยุติกิจการและขายสินทรัพย์
ทั้งนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ระดับ 2,830.53 จุด ลดลง 52.83 จุด หรือ -1.83%
ศาลสูงฮ่องกงมีคำสั่งให้บริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของจีน ยุติกิจการและขายสินทรัพย์เพื่อนำเงินมาใช้หนี้ที่สูงถึง 2.39 ล้านล้านหยวน หรือประมาณ 3.33 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากรายงานที่ว่า ฮ่องกงจะออกกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติของตนเองโดยเร็วที่สุด เนื่องจากกฎหมายความมั่นคงฉบับปัจจุบันที่รัฐบาลจีนออกให้เมื่อ 4 ปีก่อนนั้นไม่ครอบคลุมคดีการก่อกบฏและอาชญากรรมอื่น ๆ
เจ้าหน้าที่ฮ่องกงระบุว่า กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ของฮ่องกง ซึ่งบังคับใช้ภายใต้กฎหมายมาตรา 23 ตามรัฐธรรมนูญฉบับเล็กของฮ่องกง จะครอบคลุมคดี 5 คดี ซึ่งรวมถึง การก่อกบฏ การจลาจล และการจารกรรม
ทั้งนี้ ภาคธุรกิจและนักวิชาการมองว่า กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ของฮ่องกงอาจจะส่งผลกระทบต่อสถานะการเป็นศูนย์กลางการเงินโลกของฮ่องกง
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตของจีน โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) มีกำหนดเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการประจำเดือนม.ค.ในวันพุธที่ 31 ม.ค. เวลา 08.30 น.ตามเวลาไทย และจากนั้นในวันพฤหัสบดีที่ 1 ก.พ. ไฉซินและเอสแอนด์พี โกลบอลจะเปิดเผยผลสำรวจดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนประจำเดือนม.ค.