ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันอังคาร (30 ม.ค.) หลังแตะระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 2 ปี โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน ขณะที่ตลาดหุ้นฝรั่งเศสแตะระดับสูงสุดครั้งใหม่เป็นประวัติการณ์
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 485.63 จุด เพิ่มขึ้น 0.79 จุด หรือ +0.16%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,677.47 จุด เพิ่มขึ้น 36.66 จุด หรือ +0.48%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,972.34 จุด เพิ่มขึ้น 30.63 จุด หรือ +0.18% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,666.31 จุด เพิ่มขึ้น 33.57 จุด หรือ +0.44%
ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน โดยหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้น 1.8% เนื่องจากหุ้น BBVA ซึ่งเป็นธนาคารของสเปน พุ่งขึ้น 6.2% หลังเปิดเผยกำไรสุทธิไตรมาส 4 พุ่งขึ้น 32%
หุ้นกลุ่มรถยนต์ปรับตัวขึ้น 1.1% โดยหุ้นสเตลแลนทิส พุ่ง 3.8% หลังเจเนอรัล มอเตอร์ส ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่งในสหรัฐเปิดเผยแนวโน้มผลประกอบการที่สดใสในปีนี้
ข้อมูลจาก LSEG ระบุว่า ผลประกอบการในไตรมาส 4/2566 ของบริษัทในดัชนี STOXX 600 นั้นคาดว่าอาจลดลง 8.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วคาดว่าอาจลดลง 8.8%
นักลงทุนจะรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธนี้
ส่วนการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจยูโรโซนสามารถหลีกเลี่ยงภาวะถดถอยได้ในทางเทคนิคในไตรมาส 4/2566 ขณะที่เศรษฐกิจสเปนขยายตัว 0.6% และเศรษฐกิจฝรั่งเศสไม่มีการขยายตัว ส่วนเศรษฐกิจเยอรมนีหดตัวในไตรมาส 4 ซึ่งทำให้นักเศรษฐศาสตร์เตือนเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย