ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันพุธ (7 ก.พ.) โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะการร่วงลงของหุ้นอิควินอร์และหุ้นโททาลเอเนอร์จีซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่ในยุโรป
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 485.63 จุด ลดลง 1.13 จุด หรือ -0.23%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,611.26 จุด ลดลง 27.71 จุด หรือ -0.36%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 16,921.96 จุด ลดลง 111.28 จุด หรือ -0.65% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,628.75 จุด ลดลง 52.26 จุด หรือ -0.68%
ตลาดยังถูกกดดันหลังเยอรมนีเปิดเผยข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีลดลงมากกว่าคาดในเดือนธ.ค. โดยลดลงเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน
นอกจากนี้ ตลาดยังผิดหวังหลัง นางอิซาเบล ชนาเบล กรรมการธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยกับไฟแนนเชียล ไทมส์ว่า ECB ต้องอดกลั้นกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเงินเฟ้ออาจปะทุขึ้นอีก และข้อมูลที่ผ่านมายืนยันความวิตกที่ว่า การปรับลดเงินเฟ้อลงนั้นเป็นเรื่องที่ยากลำบาก
หุ้นอิควินอร์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตน้ำมันและก๊าซของนอร์เวย์ ร่วงลง 7.8% หลังเปิดเผยว่าจะลดการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในปีนี้ลง 3 พันล้านดอลลาร์
หุ้นโททาลเอเนอร์จีของฝรั่งเศส ร่วงลง 3.2% หลังรายงานรายได้ไตรมาส 4/2566 ลดลงมากกว่าคาด
หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง 0.9% โดยหุ้นยูบีเอสร่วง 2.7% หลังโบรกเกอร์อย่างน้อยสองรายปรับลดเป้าหมายราคาหุ้นยูบีเอส
แต่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น 0.7% โดยบวกขึ้นเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน และหุ้นกลุ่มรถยนต์ปรับตัวขึ้น 0.5% โดยหุ้นสเตลแลนติสของอิตาลี พุ่งขึ้น 1.1% สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์