ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันนี้ (8 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนมีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย ส่วนเงินวอนของเกาหลีใต้อ่อนค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) ปิดที่ 2,620.32. จุด เพิ่มขึ้น 10.74 จุด หรือ +0.41% โดยมีปริมาณการซื้อขายในตลาดสูงที่ 422.7 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 12.2 ล้านล้านวอน (9.18 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และมีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในสัดส่วน 451 ต่อ 436 ตัว
--ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดบวกในวันนี้ หลังจากรัฐบาลจีนประกาศเปลี่ยนตัวผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า รัฐบาลจีนภายใต้การนำของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง มีแผนที่จะใช้มาตรการที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการยุติแรงเทขายที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้นจีน
ทั้งนี้ ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดที่ 2,865.90 จุด เพิ่มขึ้น 36.21 จุด หรือ +1.28%
--ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้นในวันนี้ (8 ก.พ.) แตะระดับสูงสุดในรอบ 34 ปี โดยหุ้นกลุ่มส่งออกได้รับแรงหนุนจากเงินเยนที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่นายชินอิจิ อุจิดะ รองผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ออกมาให้ความเห็นที่เป็นการส่งสัญญาณว่า BOJ จะคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายต่อไป แม้หลังจากยุติการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบแล้วก็ตาม
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 36,863.28 จุด พุ่งขึ้น 743.36 จุด หรือ +2.06% ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2533
--ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดบวกในวันนี้ นำโดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ตามทิศทางราคาหุ้นบริษัทเทคโนโลยีในตลาดสหรัฐ
ดัชนี S&P/ASX 200 ปิดที่ 7,639.20 จุด เพิ่มขึ้น 23.40 จุด หรือ +0.31% และดัชนี All Ordinaries ปิดที่ 7,875.20 จุด เพิ่มขึ้น 24.30 จุด หรือ +0.31%
--ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดลบในวันนี้ จากแรงเทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีหลังบริษัทอาลีบาบา ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซของจีน เปิดเผยตัวเลขกำไรและรายได้ต่ำกว่าคาด นอกจากนี้ ตลาดยังวิตกกังวลว่าจีนมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะเงินฝืด
ดัชนีฮั่งเส็งปิดที่ระดับ 15,878.07 จุด ลดลง -203.82 จุด หรือ -1.27%