ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวกในวันนี้ (9 ก.พ.) หลังปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 37,000 จุดได้เป็นครั้งแรกในรอบ 34 ปี โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มส่งออกเนื่องจากเงินเยนอ่อนค่าลง รวมถึงได้แรงหนุนจากหุ้นบลูชิปซึ่งรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง
อย่างไรก็ตาม นิกเกอิลดช่วงบวกลงหลังปรับตัวขึ้นทะลุระดับ 37,000 จุด เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดตลาดที่ระดับ 36,897.42 จุด เพิ่มขึ้น 34.14 จุด หรือ +0.09% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 19 ก.พ. 2533
หุ้นที่ปรับตัวขึ้นในวันนี้นำโดยกลุ่มน้ำมันและถ่านหิน และกลุ่มโลหะที่ไม่มีส่วนผสมของเหล็ก ขณะที่หุ้นลบได้แก่กลุ่มขนส่งทางทะเล รวมถึงกลุ่มสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม
นอกจากหุ้นส่งออกแล้ว หุ้นกลุ่มชิปยังปรับตัวขึ้นแรงตามทิศทางหุ้นกลุ่มเดียวกันในตลาดหุ้นสหรัฐที่ปิดบวกเมื่อวานนี้
การปรับตัวขึ้นของนิกเกอิยังได้แรงหนุนจากซอฟต์แบงก์ กรุ๊ป หุ้นยักษ์ใหญ่ในดัชนี หลังบริษัทรายงานเมื่อวานนี้ว่า ทำกำไรสุทธิรายไตรมาสได้เป็นครั้งแรกในรอบมากกว่า 1 ปี
นายมาซาฮิโระ ยามากูจิ หัวหน้าฝ่ายวิจัยการลงทุนของ SMBC Trust Bank กล่าวว่า "เทรนด์แรงซื้อในปัจจุบันได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการของบริษัทในประเทศที่เป็นบวก อย่างไรก็ตาม เพื่อรักษาโมเมนตัมนี้ไว้ ตลาดจำเป็นต้องมีปัจจัยกระตุ้นใหม่ ๆ"
นายยามากูจิกล่าวเสริมว่า นักลงทุนหันไปโฟกัสการคาดการณ์กำไรของบริษัทในสหรัฐ เพื่อดูข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับดีมานด์ในด้านรีเจเนอเรทีฟ เอไอ (regenerative artificial intelligence) และเซมิคอนดักเตอร์