ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงในวันอังคาร (13 ก.พ.) เนื่องจากการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่สูงเกินคาดของสหรัฐ และข้อมูลค่าแรงของอังกฤษทำให้นักลงทุนลดคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,512.28 จุด ลดลง 61.41 จุด หรือ -0.81%
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลงวันเดียวมากที่สุดในรอบเกือบ 1 เดือน โดยหุ้นกลุ่มสร้างบ้านที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย ร่วงลง 4% และทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) ร่วงลง 2.4%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐและยุโรปพุ่งขึ้น หลังจากรายงานบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐยังคงอยู่ในระดับสูงในเดือนม.ค. ซึ่งทำลายความหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเร็ว ๆ นี้
นอกจากนี้ ข้อมูลที่บ่งชี้ว่าการขยายตัวของค่าจ้างในอังกฤษลดลงน้อยกว่าคาดในช่วง 3 เดือนในไตรมาส 4/2566 ทำให้นักลงทุนคาดว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงครั้งแรกอย่างเร็วที่สุดในเดือนมิ.ย.
บรรดานักลงทุนจะรอดูการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของอังกฤษในวันพุธนี้
อย่างไรก็ตาม หุ้นแกล็กโซสมิทไคล์นบวก 0.9% สวนทางตลาด หลังซิตี้กรุ๊ปปรับเพิ่มคำแนะนำลงทุนเป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี หลังการวิจัยยา Blenrep ในการรักษาโรคมะเร็งไขกระดูกมัยอิโลมาได้ผลในเชิงบวก
หุ้นแอสตร้าเซเนก้า บวก 1.0% หลังร่วงติดต่อกัน 4 วัน