ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพุ่งกว่า 100 จุด ส่งสัญญาณการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นวอลล์สตรีท หลังดิ่งลงอย่างหนักวานนี้
ณ เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 116 จุด หรือ 0.3% สู่ระดับ 38,449 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ทรุดตัวลงกว่า 500 จุดวานนี้ หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่สูงกว่าคาด ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงยาวนานกว่าที่คาดไว้
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.1% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.9% ขณะที่ดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.9% ในเดือนม.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 3.7%
FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนเลื่อนคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในปีนี้ของเฟดเป็นเดือนมิ.ย. จากเดิมที่คาดไว้ในเดือนพ.ค. หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนี CPI ดังกล่าว
หุ้นที่เกี่ยวข้องกับตลาดคริปโทเคอร์เรนซีต่างดีดตัวขึ้นในการซื้อขายก่อนเปิดตลาดหุ้นวอลล์สตรีท หลังบิตคอยน์พุ่งขึ้นทะลุระดับ 51,000 ดอลลาร์ในวันนี้
ทั้งนี้ ราคาหุ้น Coinbase และ Microstrategy ต่างพุ่งขึ้น 7% ขณะที่ CleanSpark และ Iris Energy ดีดตัวขึ้น 14% และ 17% ตามลำดับ ส่วน Riot Platforms และ Marathon Digital ซึ่งเป็นบริษัทขุดบิตคอยน์รายใหญ่ บวก 9% และ 12%
บิตคอยน์ดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดพุ่งเหนือระดับ 51,700 ดอลลาร์ หรือราว 1,870,000 บาท ทำสถิติสูงสุดในรอบกว่า 2 ปีในการซื้อขายวันนี้
บิตคอยน์พุ่งขึ้นมากกว่า 21% นับตั้งแต่ต้นปี 2567 ส่งผลให้มูลค่าตลาดของบิตคอยน์ทั้งหมดพุ่งทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์ในวันนี้ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2564 โดยได้แรงหนุนจากคาดการณ์ปรากฏการณ์ Bitcoin Halving ในปีนี้ รวมทั้งการที่สหรัฐให้การอนุมัติการจัดตั้งกองทุน Spot Bitcoin ETF