ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวกในวันนี้ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ที่ปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดและดัชนี S&P500 ปิดทำนิวไฮในวันพฤหัสบดี (15 ก.พ.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกลดลงมากกว่าคาด ซึ่งทำให้ตลาดมีความหวังว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะเริ่มพิจารณาการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดที่ระดับ 38,517.37 จุด เพิ่มขึ้น 359.43 จุด หรือ +0.94% และดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 16,007.54 จุด เพิ่มขึ้น 62.91 จุด หรือ +0.39%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวขึ้น 0.91% และดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ บวก 0.84%
ส่วนตลาดหุ้นจีนปิดทำการเนื่องในเทศกาลตรุษจีน และจะกลับมาเปิดทำการซื้อขายอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 19 ก.พ.
ดัชนีนิกเกอิพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)ไตรมาส 4/2566 ของญี่ปุ่นหดตัวลง 0.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี หลังจากที่หดตัวลง 3.3% ในไตรมาส 3/2566
ทั้งนี้ การที่ GDP หดตัวลงติดต่อกัน 2 ไตรมาสบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเทคนิค และส่งผลให้ญี่ปุ่นสูญเสียสถานะการเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกให้กับเยอรมนี โดยขณะนี้ญี่ปุ่นกลายเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 4 ของโลก
นอกจากนี้ การที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นเข้าสู่ภาวะถดถอยทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะยังคงเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินเป็นพิเศษ (ultra-loose monetary policy) ต่อไปเป็นเวลานานขึ้น
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงเช้าวันนี้ ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) เปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นระบุว่า ราคานำเข้าของเกาหลีใต้ดีดตัวขึ้นในเดือนม.ค. 2567 หลังจากที่ลดลงมาแล้ว 2 เดือนติดต่อกัน เนื่องจากราคาน้ำมันแพงขึ้น
เมื่อเทียบเป็นรายเดือน ดัชนีราคานำเข้าของเกาหลีใต้เดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 2.2% หลังจากที่ลดลง 1.7% ในเดือนธ.ค. 2566 และเมื่อเทียบเป็นรายปี ดัชนีราคานำเข้าของเกาหลีใต้เดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 0.2%
ทั้งนี้ ราคานำเข้าเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่ออัตราเงินเฟ้อโดยรวมของประเทศ