ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันจันทร์ (19 ก.พ.) โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเภสัชภัณฑ์และกลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพ หลังสำนักงานอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอนุมัติยารักษาโรคมะเร็งปอดของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ขณะที่หุ้นเคอรีส์ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้าพุ่งขึ้นจากความสนใจเข้าเทกโอเวอร์จากบริษัทเจดี.คอมและจากบริษัทเอลเลียต ฟุตซี
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,728.50 จุด เพิ่มขึ้น 16.79 จุด หรือ +0.22%
ดัชนี FTSE 100 ปิดบวกสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 7 สัปดาห์ ขณะที่การซื้อขายเบาบางเนื่องจากตลาดสหรัฐปิดทำการวันหยุด เนื่องในวันประธานาธิบดี
หุ้นกลุ่มเภสัชภัณฑ์และกลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 11 วัน โดยได้แรงหนุนจากหุ้นแอสตร้าเซนเนก้าที่พุ่งขึ้น 3.2% หลัง FDA สหรัฐอนุมัติใช้ยารักษาโรคมะเร็งปอด
หุ้นเคอรีส์ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกเครื่องใช้ไฟฟ้าของอังกฤษพุ่ง 36.4% หลังได้รับความสนใจเสนอเทกโอเวอร์จากบริษัทเจดี.คอมซึ่งเป็นบริษัทด้านอี-คอมเมิร์ซของจีน
แต่หุ้นกลุ่มโลหะอุตสาหกรรมร่วงลง 1.3% เนื่องจากราคาทองแดงปรับตัวลงหลังจากธนาคารกลางจีนคงอัตราดอกเบี้ยระยะกลาง
ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้แรงหนุนจากการที่บรรดานักลงทุนคาดว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเร็วขึ้น หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ว่าเงินเฟ้อชะลอตัวลง
อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจบ่งชี้ว่า ราคาบ้านในอังกฤษปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือนเมื่อเทียบเป็นรายปี
ไรต์มูฟซึ่งเป็นเว็บไซต์ด้านอสังหาริมทรัพย์เปิดเผยว่า ราคาขายบ้านในอังกฤษเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนก.พ.เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2566