ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันพุธ (21 ก.พ.) โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นเอชเอสบีซี (HSBC) หลังรายงานการขาดทุน 3 พันล้านดอลลาร์จากการลงทุนในธนาคารจีนแห่งหนึ่ง ขณะที่นักลงทุนชะลอการลงทุนเพื่อรอดูรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการรายงานผลประกอบการของบริษัทอินวิเดีย
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,662.51 จุด ลดลง 56.70 จุด หรือ -0.73%
หุ้นกลุ่มธนาคารร่วง 5.0% รุนแรงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2566 หลังหุ้น HSBC ร่วง 8.4% ซึ่งเป็นการร่วงลงวันเดียวรุนแรงที่สุดในรอบเกือบ 4 ปี แม้เปิดเผยผลกำไรสูงเป็นประวัติการณ์ โดย HSBC ขาดทุนจากการลงทุนในธนาคารจีนรายหนึ่งท่ามกลางการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอเกินคาดของจีน
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวลงด้วย โดยหุ้นเกล็นคอร์ ร่วง 1.1% หลังเปิดเผยผลประกอบการร่วงลงในปีที่ผ่านมา เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ลดลง
บรรดานักลงทุนมุ่งความสนใจไปที่การเปิดเผยรายงานการประชุมของเฟด และบริษัทอินวิเดียจะรายงานผลประกอบการหลังจากปิดตลาดลอนดอนแล้ว ขณะที่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับกำหนดเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และความวิตกเกี่ยวกับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐนั้นกดดันตลาดในสัปดาห์นี้
นางสวาติ ดินกรา ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เปิดเผยว่า BoE จะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะมีหลักฐานชัดเจนว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อลดลง