ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นเกือบ 100 จุด ขณะที่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทดีดตัวขึ้นต่อเนื่องจากวานนี้
ณ เวลา 21.39 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 39,165.16 จุด บวก 96.05 จุด หรือ 0.25% ส่วนดัชนี S&P 500 ดีดตัว 0.3% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เหนือระดับ 5,100 จุด
ดัชนีดาวโจนส์พุ่งกว่า 400 จุด ปิดตลาดวานนี้เหนือระดับ 39,000 จุดทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดทำนิวไฮเช่นกัน และทำสถิติพุ่งขึ้นมากที่สุดภายในวันเดียวในรอบ 13 เดือน ส่วนดัชนี Nasdaq ดีดตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 1 ปี หลังจากบริษัทอินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นในสัปดาห์นี้ โดยดัชนีดาวโจนส์บวก 1.4% นับตั้งแต่ต้นสัปดาห์ ขณะที่ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq พุ่งขึ้น 2% และ 2.2% ตามลำดับ
นักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในเดือนมี.ค.
ทั้งนี้ นายพาวเวลมีกำหนดกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 6 มี.ค. ก่อนที่จะกล่าวต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันที่ 7 มี.ค.
นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวล ซึ่งจะมีขึ้นก่อนการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 19-20 มี.ค. เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ที่สูงกว่าคาด