ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าลบเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ (27 ก.พ.) โดยบรรยากาศการซื้อขายซบเซาลงเนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลงเมื่อวันจันทร์ (26 ก.พ.) หลังจากดัชนีหลักปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 16,574.21 จุด ลดลง 60.53 จุด หรือ -0.36% ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 2,992.30 จุด เพิ่มขึ้น 15.27 จุด หรือ +0.51% และดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าที่ระดับ 39,173.92 จุด ลดลง 59.79 จุด หรือ -0.15%
ดัชนี Kospi ของตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวลงเล็กน้อย 0.3% ขณะที่ ดัชนี Kosdaq ลดลง 1.4%
ดัชนี S&P/ASX 200 ของตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวลง 0.3%
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญต่าง ๆ ในสัปดาห์นี้ เช่น ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนก.พ.ของจีนที่จะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ (1 มี.ค.) และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนม.ค.จากสหรัฐในวันพฤหัสบดี (29 ก.พ.)
ดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (26 ก.พ.) โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,069.23 จุด ลดลง 62.30 จุด หรือ -0.16%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,069.53 จุด ลดลง 19.27 จุด หรือ -0.38% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,976.25 จุด ลดลง 20.57 จุด หรือ -0.13%