ตลาดหุ้นเอเชียเปิดภาคเช้าไร้ทิศทางในวันนี้ (28 ก.พ.) หลังธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเอาไว้ที่ 5.5% ขณะที่นักลงทุนรอสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อสำคัญและข้อมูลเศรษฐกิจจีนในสัปดาห์นี้
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 16,833.61 เพิ่มขึ้น 42.81 จุด หรือ +0.25% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,016.26 เพิ่มขึ้น 0.78 จุด หรือ +0.03% ขณะที่ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 39,189.22 จุด ลดลง 50.30 จุด หรือ -0.13%
ดัชนี Kospi ของตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวขึ้น 0.5% ขณะที่ ดัชนี Kosdaq ปรับตัวขึ้น 1.4%
ดัชนี S&P/ASX 200 ของตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวลดลง 0.1% ส่วนดัชนี S&P/NZX 50 ของตลาดหุ้นนิวซีแลนด์ปรับตัวขึ้น 0.1% หลังการตัดสินใจของ RBNZ
ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 5.5% ในการประชุมวันนี้ (28 ก.พ.) ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์จำนวนมาก แต่มีแนวโน้มสร้างความผิดหวังให้แก่ประชาชนที่ต้องชำระเงินกู้ซื้อบ้าน
การตัดสินใจครั้งนี้บ่งชี้ว่าธนาคารกลางนิวซีแลนด์และนายเอเดรียน ออร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางนิวซีแลนด์เชื่อว่า เงินเฟ้อของนิวซีแลนด์ยังคงอยู่ในระดับสูงเกินกว่าที่จะสามารถปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง
นักลงทุนรอจีนเปิดเผยข้อมูลดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการเดือนก.พ.ของจีนที่จะเปิดเผยในวันศุกร์นี้
สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนม.ค.ในวันพฤหัสบดีนี้ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
หากข้อมูล PCE บ่งชี้ถึงภาวะเงินเฟ้อ ก็อาจจะทำให้เฟดตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงในปัจจุบันต่อไปนานกว่าที่ตลาดคาดไว้