ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันศุกร์ (1 มี.ค.) ตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลก เนื่องจากนักลงทุนขานรับการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่ชะลอลงในสหรัฐ และตลาดได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นไอทีวีหลังจากขายหุ้นในบริตบอกซ์ อินเทอร์เนชันแนลให้กับบีบีซี สตูดิโอส์
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,682.50 จุด เพิ่มขึ้น 52.48 จุด หรือ +0.69%
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลก ซึ่งได้แรงหนุนจากการทะยานขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และจากอัตราเงินเฟ้อที่ชะลอลงในสหรัฐ
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวขึ้นไม่มากนักท่ามกลางความวิตกว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) อาจจะต้องตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงต่อไป
นายฮิว พิล หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ BoE คาดว่า ยังคงต้องใช้เวลาอีกระยะก่อนที่ BoE จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่โรคโควิด-19 แพร่ระบาด
หุ้นกลุ่มสร้างบ้านและกลุ่มกองทุนทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวขึ้นมากกว่า 2% โดยได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐและยุโรปที่ปรับตัวลง
ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่า ราคาบ้านในอังกฤษปรับตัวขึ้นในเดือนก.พ.เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี ซึ่งเป็นสัญญาณการฟื้นตัวของตลาดบ้านหลังอัตราดอกเบี้ยจำนองลดลง
บรรดานักลงทุนจะมุ่งความสนใจไปที่การเปิดเผยงบประมาณของอังกฤษในสัปดาห์หน้า ซึ่งคาดว่า นายเจเรมี ฮันท์ รมว.คลังอังกฤษจะปรับลดภาษีลงก่อนการเลือกตั้งในอังกฤษ ขณะที่รัฐบาลมีหนี้สิน 2.5 ล้านล้านปอนด์
สำหรับความเคลื่อนไหวของหุ้นรายตัวนั้น หุ้นไอทีวี พุ่งขึ้น 14.3% หลังขายหุ้นทั้งหมด 50% ในบริษัทบริตบอกซ์ อินเทอร์เนชันแนลให้กับบีบีซี สตูดิโอส์ซึ่งเป็นหุ้นส่วนร่วมทุนเป็นเงิน 255 ล้านปอนด์ (322.09 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
หุ้นเพียร์สัน ซึ่งทำธุรกิจด้านการศึกษา พุ่งขึ้น 5.6% หลังเปิดเผยผลกำไรจากการดำเนินงานปี 2566 เป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้