ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันจันทร์ (4 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังในการซื้อขายหลังจากตลาดปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา และก่อนการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 497.41 จุด ลดลง 0.17 จุด หรือ -0.03%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,956.41 จุด เพิ่มขึ้น 22.24 จุด หรือ +0.28%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 17,716.17 จุด ลดลง 18.90 จุด หรือ -0.11% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,640.33 จุด ลดลง 42.17 จุด หรือ -0.55%
ดัชนี STOXX 600 ชะลอตัวลงหลังแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และเข้าใกล้ระดับ 500 จุด
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของยุโรปยังคงปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 20 ปี โดยปรับตัวขึ้นตามหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีทั่วโลกท่ามกลางกระแสความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)
อย่างไรก็ตาม การปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มที่ปรับตัวตามวัฏจักรเศรษฐกิจ อาทิ กลุ่มเหมืองแร่, กลุ่มเดินทางและนันทนาการ รวมถึงกลุ่มค้าปลีกนั้น ถ่วงตลาดลง
สำหรับเหตุการณ์สำคัญ ๆ ที่นักลงทุนจับตาในสัปดาห์นี้ได้แก่ การที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะแถลงนโยบายการเงินต่อสภาคองเกรสเป็นเวลา 2 วัน, การประชุมของ ECB และการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานเดือนก.พ.ของสหรัฐ
ECB จะประชุมในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งคาดว่าจะตรึงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 4% แต่มีแนวโน้มที่จะปรับลดแนวโน้มเงินเฟ้อลงและจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในที่สุด
ข้อมูลเมื่อสัปดาห์ที่แล้วบ่งชี้ว่า เงินเฟ้อของยูโรโซนลดลงในเดือนก.พ. แต่การขยายตัวของเงินเฟ้อพื้นฐานยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งทำลายความหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างมากและรวดเร็วในปีนี้
ตลาดคาดการณ์ในขณะนี้ว่า ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.90% ในปีนี้ โดยจะปรับลดลงเป็นครั้งแรกในเดือนมิ.ย.