ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันอังคาร (5 มี.ค.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวลงตามราคาโลหะ หลังจีนไม่ได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ขณะที่นักลงทุนรอการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจของยูโรโซนและสหรัฐ รวมถึงการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในสัปดาห์นี้
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 496.27 จุด ลดลง 1.14 จุด หรือ -0.23%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,932.82 จุด ลดลง 23.59 จุด หรือ -0.30%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 17,698.40 จุด ลดลง 17.77 จุด หรือ -0.10% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,646.16 จุด เพิ่มขึ้น 5.83 จุด หรือ +0.08%
ในวันอังคารนี้ ยูโรโซนเปิดเผยข้อมูลกิจกรรมทางธุรกิจฟื้นตัวในเดือนก.พ. ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในเดือนม.ค.ลดลงมากเกินคาดเมื่อเทียบเป็นรายเดือน
นักลงทุนจับตา ECB ประชุมกำหนดนโยบายอัตราดอกเบี้ยในวันพฤหัสบดี ขณะที่ยูโรโซนจะเปิดเผยข้อมูลยอดค้าปลีกและผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) และสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานในวันศุกร์นี้
หุ้นกลุ่มทรัพยากรพื้นฐาน ร่วงลง 0.9% สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน หลังนักลงทุนผิดหวังที่จีนกำหนดเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ไว้ที่ราว 5% และไม่มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่
หุ้นกลุ่มสินค้าหรูหราที่พึ่งพาตลาดจีนร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ โดยหุ้นแอร์เมสและหลุยส์วิตตอง ร่วงลงกว่า 1%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลง 1.6% ตามการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเดียวกันในตลาดสหรัฐ
หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคพุ่งขึ้น 1.8% หลังได้แรงหนุนจากอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรที่ลดลง
สำหรับหุ้นรายตัวนั้น หุ้นโนโว นอร์ดิสค์ ร่วง 2.5% หลังแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในการซื้อขายช่วงเช้า ขณะที่หุ้นไบเออร์ ร่วง 7.6% หลังบริษัทระงับแผนการที่จะแยกกิจการเป็นเวลานานถึง 3 ปี ทำให้นักลงทุนไม่แน่ใจว่า บริษัทได้ดำเนินการอย่างเพียงพอหรือไม่ในการพลิกฟื้นธุรกิจ