ตลาดหุ้นยุโรปปิดทรงตัวในวันศุกร์ (8 มี.ค.) แต่ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งในรอบสัปดาห์นี้เนื่องจากตลาดหุ้นเยอรมนีและตลาดหุ้นฝรั่งเศสแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่นักลงทุนวิเคราะห์ข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มนโยบายการเงินทั่วโลก
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 503.26 จุด เพิ่มขึ้น 0.10 จุด หรือ +0.02%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,028.01 จุด เพิ่มขึ้น 11.79 จุด หรือ +0.15%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 17,814.51 จุด ลดลง 28.34 จุด หรือ -0.16% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,659.74 จุด ลดลง 32.72 จุด หรือ -0.43%
ดัชนี STOXX 600 ปิดทรงตัวในวันศุกร์หลังปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน
ตลาดหุ้นฝรั่งเศสแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันศุกร์ ขณะที่ตลาดหุ้นเยอรมนีแตะระดับสูงสุดตลอดกาลในวันพฤหัสบดี
กลุ่มอสังริมทรัพย์นำตลาดปรับตัวขึ้น 2.1% ขณะที่กลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง 1.6% หลังหุ้นบีอี เซมิคอนดักเตอร์ของเนเธอร์แลนด์ ร่วงลง 16.1%
ตลาดแรงงานสหรัฐขยายตัวในเดือนก.พ. แต่มีการปรับลดการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นในช่วง 2 เดือนก่อนหน้า ขณะที่อัตราการว่างงานที่เพิ่มขึ้นบ่งชี้ถึงตลาดแรงงานที่ชะลอตัวลง
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจในฝั่งยุโรปนั้น เยอรมนีเปิดเผยข้อมูลผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนม.ค.ของเยอรมนีที่สูงเกินคาด ซึ่งเพิ่มความหวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวในที่สุด และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนม.ค.ของเยอรมนีลดลงน้อยกว่าคาด
ด้านนโยบายนั้น ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) สนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนมิ.ย. และบางรายสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในเดือนก.ค.
หุ้นกลุ่มบริการทางการเงิน ปรับตัวขึ้น 1.1% โดยได้แรงหนุนจากหุ้นยูบีเอสที่พุ่งขึ้น 4% หลังมอร์แกน สแตนลีย์ปรับเพิ่มคำแนะนำลงทุนในหุ้นยูบีเอสเป็นเพิ่มน้ำหนักการลงทุน (overweight)