ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันศุกร์ (8 มี.ค.) และปิดลดลงเล็กน้อยในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา นำโดยหุ้นกลุ่มอากาศยานและการป้องกันประเทศที่ปรับตัวลง ขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในรอบสัปดาห์นี้นับตั้งแต่เดือนพ.ย. หลังข้อมูลเศรษฐกิจที่ชะลอตัวของสหรัฐบ่งชี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐอาจใกล้ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงแล้ว
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,659.74 จุด ลดลง 32.72 จุด หรือ -0.43% และปรับตัวลงในรอบสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน
อย่างไรก็ตาม การแถลงงบประมาณของอังกฤษที่เป็นไปตามคาดได้หนุนดัชนี FTSE 250 ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นกลุ่มบริษัทขนาดกลางปรับตัวขึ้น 0.1% ในวันศุกร์ และบวก 1.3% ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา
หุ้นกลุ่มส่งออกถูกกดดันหลังปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.18% สู่ระดับ 1.2826 ดอลลาร์ โดยแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.เมื่อเทียบกับดอลลาร์ หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่า การขยายตัวของการจ้างงานในสหรัฐเพิ่มขึ้นในเดือนก.พ. แต่อัตราการว่างงานเพิ่มสูงขึ้น และการขยายตัวของค่าแรงชะลอตัวลง
หุ้นกลุ่มอากาศยานและการป้องกันประเทศ นำตลาดร่วงลง 1.1% หลังบวกต่อเนื่อง 7 วันทำการก่อนหน้านี้
แต่หุ้นกลุ่มทรัสต์ที่ลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เพิ่มขึ้นสวนทางตลาด 1.4% และ 1.3% ตามลำดับ ซึ่งได้ช่วยลดช่วงติดลบในตลาด
สำหรับความเคลื่อนไหวของหุ้นรายตัวนั้น หุ้นเอ็นเทน ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทด้านการพนัน ร่วงลง 5.4% หลังเปิดเผยว่า การเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบจะส่งผลกระทบต่อผลกำไรของบริษัทในปี 2567