ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าไร้ทิศทางในวันนี้ (11 มี.ค.) หลังตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลงเมื่อวันศุกร์ (8 มี.ค.) โดยหุ้นอินวิเดีย (Nvidia) บริษัทผลิตชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) ปิดลบกว่า 5% ซึ่งลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปลายเดือนพ.ค.ปีที่แล้ว ขณะที่ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลงกว่า 2% ในวันนี้
ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,052.28 จุด เพิ่มขึ้น 6.26 จุด หรือ +0.21% และดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าที่ระดับ 38,704.10 จุด ร่วงลง 984.84 จุด หรือ -2.48% ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 16,562.98 จุด เพิ่มขึ้น 209.59 จุด หรือ +1.28%
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าร่วงลงในวันนี้ เนื่องจากการดิ่งลงของหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ในสหรัฐและการแข็งค่าของเงินเยนได้กระตุ้นให้เกิดแรงเทขายในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการส่งออก
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าบวกในวันนี้ หลังจีนเผยดัชนี CPI กลับมาเพิ่มขึ้นในเดือนก.พ. หลังลดลงในเดือนม.ค.
จีนรายงานเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือน โดยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ปรับตัวขึ้น 0.7% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบเป็นรายปี และสูงกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ในผลสำรวจที่จัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์ที่คาดการณ์ว่าจะปรับขึ้น 0.3% หลังปรับลดลง 0.8% ในเดือนม.ค.
นักลงทุนจับตาข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยทางการสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนก.พ. ในวันพรุ่งนี้ และจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ประจำเดือนก.พ.ในวันพฤหัสบดีนี้
ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลงในวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,722.69 จุด ลดลง 68.66 จุด หรือ -0.18%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,123.69 จุด ลดลง 33.67 จุดหรือ -0.65% และดัชนี NASDAQ ปิดที่ 16,085.11 จุด ลดลง 188.26 จุด หรือ -1.16%