ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเล็กน้อยในวันพุธ (13 มี.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหุ้นในกลุ่มบริษัทผลิตชิป ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มเงินเฟ้อก่อนที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,043.32 จุด เพิ่มขึ้น 37.83 จุด หรือ +0.10%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,165.31 จุด ลดลง 9.96 จุด หรือ -0.19% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,177.77 จุด ลดลง 87.87 จุด หรือ -0.54%
ดัชนีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ปรับตัวลง 2.5% หลังจากที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา แต่นับตั้งแต่ต้นปีนี้ ดัชนีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์พุ่งขึ้น 17% ทั้งนี้ หุ้นอินวิเดียปิดปรับตัวลง 1.1% หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ ลดลง 0.8% และหุ้นแอปเปิ้ล ลดลง 1.2%
อดัม คริสเซฟูลลี นักวิเคราะห์จากบริษัท Vital Knowledge กล่าวว่า นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากตลาดพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุม "NVIDIA GTC 2024" ซึ่งบริษัทอินวิเดียจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 18-21 มี.ค. โดยจะมีนักพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้าร่วมการประชุม และคาดว่าอาจจะมีการประกาศโครงการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ AI
หุ้นอินเทล ร่วงลง 4.4% หลังจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่ากระทรวงกลาโหมสหรัฐ (เพนตากอน) ได้ตัดสินใจยกเลิกแผนการใช้จ่ายมูลค่า 2.5 พันล้านดอลลาร์ในการสนับสนุนการผลิตชิปให้กับบริษัทอินเทล
หุ้นดอลลาร์ ทรี (Dollar Tree) ซึ่งเป็นเครือข่ายค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐ ดิ่งลง 14.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุนในไตรมาสที่แล้ว และประกาศว่าจะปิดร้านค้าปลีกเกือบ 1,000 แห่ง
หุ้นแมคโดนัลด์ ร่วงลง 3.9% หลังจากประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงินของแมคโดนัลด์กล่าวว่า ยอดขายทั่วโลกอาจจะปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในไตรมาสปัจจุบัน
ควินซี ครอสบี นักวิเคราะห์จากบริษัท LPL Financial กล่าวว่า ตลาดจับตาการเปิดเผยดัชนี PPI ประจำเดือนก.พ.ของสหรัฐในวันนี้อย่างใกล้ชิด โดยคาดหวังว่าข้อมูลดังกล่าวจะทำให้เห็นภาพรวมเงินเฟ้อของสหรัฐได้ชัดเจนยิ่งขึ้น หลังจากสหรัฐได้เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
สำหรับการคาดการณ์ล่าสุดเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟดนั้น ข้อมูลจาก FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 65% ที่เฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในการประชุมเดือนมิ.ย. ส่วนในการประชุมสัปดาห์หน้า (19-20 มี.ค.) นักลงทุนคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 5.25-5.50%
นอกเหนือจากดัชนี PPI แล้ว นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ ของสหรัฐในสัปดาห์นี้ด้วย โดยในวันนี้สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และยอดค้าปลีกเดือนก.พ. ส่วนในวันศุกร์จะมีการเปิดเผยดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนมี.ค.จากเฟดนิวยอร์ก, การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมี.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน