ตลาดหุ้นเอเชียเปิดภาคเช้าบวกเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ (20 มี.ค.) ขณะที่นักลงทุนซึมซับการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินครั้งสำคัญของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และรอคอยการตัดสินใจอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 16,559.01 จุด เพิ่มขึ้น 29.53 จุด หรือ +0.18% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,058.65 จุด ลดลง 4.11 จุด หรือ -0.13%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ปรับตัวขึ้น 0.17% หลังเมื่อวานนี้ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 4.35% ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 3
ดัชนี Kospi ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปรับตัวขึ้น 1.12% โดยได้แรงหนุนจากการปรับขึ้น 1.37% ของหุ้นซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ ส่วนดัชนี Kosdaq ปรับตัวขึ้น 0.34%
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้ (20 มี.ค.) เนื่องในวันวสันตวิษุวัต
ทั้งนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมวันอังคาร (19 มี.ค.) ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในรอบ 17 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2550 พร้อมกับประกาศยกเลิกนโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทน (YCC) ซึ่งถือเป็นการยุติการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบที่ดำเนินการมาเป็นเวลานานและเป็นประเทศสุดท้ายของโลก หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าค่าจ้างของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นในปีนี้
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า คณะกรรมการ BOJ มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นสู่ระดับ 0 ถึง 0.1% จากระดับ -0.1%
นอกจากนี้ BOJ ได้ประกาศยุตินโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี โดยที่ผ่านมา BOJ ได้ใช้นโยบายควบคุมเส้นอัตราผลตอบแทนเพื่อกำหนดอัตราดอกเบี้ยระยะยาวผ่านการซื้อและขายพันธบัตรดังกล่าว
ด้านธนาคารกลางจีน (PBOC) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยลูกค้าชั้นดี (LPR) ทั้งประเภท 1 ปี และ 5 ปี ที่ระดับ 3.45% และ 3.95% ตามลำดับในวันนี้ โดยอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 1 ปีของจีนเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะสั้น ส่วนอัตราดอกเบี้ย LPR ประเภท 5 ปีเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยระยะยาว เช่น อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนอง
นักลงทุนจับตาผลการประชุมเฟดในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 99.0% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมครั้งนี้