ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพฤหัสบดี (21 มี.ค.) แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นนำตลาด ขณะที่ธนาคารกลางรายใหญ่ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยซึ่งช่วยหนุนความเชื่อมั่นของนักลงทุน
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 509.77 จุด เพิ่มขึ้น 4.56 จุด หรือ +0.90%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,179.72 จุด เพิ่มขึ้น 18.31 จุด หรือ +0.22%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,179.25 จุด เพิ่มขึ้น 164.12 จุด หรือ +0.91% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,882.55 จุด เพิ่มขึ้น 145.17 จุด หรือ +1.88%
ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์และแตะระดับสูงสุดตลอดกาลระหว่างวันที่ 510.25 จุดในการซื้อขายช่วงเช้า
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้น 3.2% หลังจากนักลงทุนแห่เข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงหลังธนาคารกลางสหรัฐยืนยันที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 3 ครั้งในปีนี้
การปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ของยุโรปช่วยหนุนตลาดด้วย โดยหุ้นเอเอสเอ็มแอล โฮลดิง พุ่งขึ้น หลังบริษัทไมครอนของสหรัฐเปิดเผยคาดการณ์รายได้ไตรมาส 3 ที่แข็งแกร่ง
หุ้นกลุ่มทรัพยากรซึ่งรวมหุ้นเหมืองแร่ พุ่ง 2.6% หลังราคาโลหะส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น ขณะที่ราคาทองคำแตะระดับสูงสุดตลอดกลางในการซื้อขายช่วงเช้า
ตลาดได้แรงหนุนหลังธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ตรึงอัตราดอกเบี้ยตามคาด และนายแอนดรูว์ เบลีย์ ผู้ว่าการ BoE ระบุว่าเศรษฐกิจอังกฤษกำลังดำเนินไปในทิศทางที่เหมาะสมที่ BoE จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 1.50% ซึ่งนับเป็นธนาคารกลางรายใหญ่รายแรกที่ปรับลดอัตราดอกเบี้ย