ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าลบเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ (22 มี.ค.) โดยดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าร่วงลงกว่า 3% ในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นออกมาเพื่อทำกำไร หลังจากตลาดปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อวานนี้โดยได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ย และยังคงส่งสัญญาณว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงจำนวน 3 ครั้งในปีนี้ แต่ดัชนีนิกเกอิของตลาดหุ้นญี่ปุ่นพุ่งทะลุระดับ 41,000 จุดในช่วงสั้น ๆ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันนี้ หลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่าตัวเลขเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นในเดือนก.พ.
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดภาคเช้าที่ระดับ 40,844.53 จุด เพิ่มขึ้น 28.87 จุด หรือ +0.07% ขณะที่ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 16,350.56 จุด ลดลง 512.54 จุด หรือ -3.04% ส่วนดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,033.77 จุด ลดลง 43.35 จุด หรือ -1.41%
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของญี่ปุ่นสำหรับเดือนก.พ.ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2.8% จากระดับ 2.2% ในเดือนก.พ. ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารสด ปรับตัวสู่ 2.8% ในเดือนก.พ. เทียบกับ 2% ในเดือนม.ค.
ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ระบุในแถลงการณ์นโยบายเมื่อวันอังคารที่ 19 มี.ค. ว่า BOJ จะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% อย่างยั่งยืนและมีเสถียรภาพ
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการประจำเดือนมี.ค.ของจีน โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) มีกำหนดเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการประจำเดือนมี.ค.ในวันอาทิตย์ที่ 31 มี.ค.นี้ เวลาประมาณ 08.30 น.ตามเวลาไทย