ดัชนีดาวโจนส์เปิดตลาดในแดนบวก ส่งสัญญาณการปิดฉากอย่างสดใสของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในสัปดาห์นี้
ณ เวลา 20.31 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 39,796.07 จุด บวก 14.70 จุด หรือ 0.04%
ดัชนีดาวโจนส์, ดัชนี S&P 500 และดัชนี Nasdaq ต่างดีดตัวขึ้นวานนี้ และทำสถิติปิดตลาดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 2 วันติดต่อกัน
นอกจากนี้ ดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นเกือบ 3% นับตั้งแต่ต้นสัปดาห์ และมีแนวโน้มทำสถิติพุ่งขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบรายสัปดาห์นับตั้งแต่เดือนธ.ค.2566 ขณะที่ดัชนี S&P 500 และดัชนี Nasdaq พุ่งขึ้น 2.4% และ 2.7% ตามลำดับ
การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในสัปดาห์นี้ได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ รวมทั้งการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ หลังการประชุมเฟด
นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนมิ.ย. ก่อนที่เฟดจะปรับลดต่อไปในเดือนก.ย. และธ.ค.
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์หน้า (29 มี.ค.)
ดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ โดยสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)