ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบในวันจันทร์ (25 มี.ค.) จากแรงขายทำกำไรหลังตลาดปรับตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมาโดยได้แรงหนุนจากแนวโน้มที่ธนาคารกลางรายใหญ่ต่าง ๆ จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,917.57 จุด ลดลง 13.35 จุด หรือ -0.17%
ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลง นำโดยการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเคมีภัณฑ์ รวมถึงกลุ่มรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์
หุ้นไดเร็ค ไลน์ ร่วงลง 11% หลังบริษัทเอจีส เอสเอ ซึ่งเป็นบริษัทประกันของเบลเยียมยกเลิกแผนเสนอซื้อกิจการไดเร็ค ไลน์
นอกจากนี้ นักลงทุนขายหุ้นออกมาเพื่อทำกำไร หลังจากดัชนี FTSE 100 ปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี เนื่องจากนักลงทุนขานรับแนวโน้มที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้ และดัชนีมีแนวโน้มปิดบวกในไตรมาสนี้เป็นไตรมาสที่ 3
แต่หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น 0.9% สวนทางตลาด เนื่องจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นจากความวิตกเกี่ยวกับอุปทาน หลังความตึงเครียดรุนแรงขึ้นระหว่างรัสเซียและยูเครนและในตะวันออกกลาง
ส่วนจุดสนใจของตลาดในสัปดาห์นี้จะอยู่ที่การเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐ ซึ่งเป็นดัชนีที่เฟดให้ความสำคัญในวันศุกร์นี้ (29 มี.ค.) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อและแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ