ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันอังคาร (26 มี.ค.) ที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 511.09 จุด เพิ่มขึ้น 1.23 จุด หรือ +0.24%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 8,184.75 จุด เพิ่มขึ้น 33.15 จุด หรือ +0.41%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 18,384.35 จุด เพิ่มขึ้น 123.04 จุด หรือ +0.67% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,930.96 จุด เพิ่มขึ้น 13.39 จุด หรือ +0.17%
ดัชนี STOXX 600 มีแนวโน้มปิดบวกเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน โดยปรับตัวขึ้น 6.7% แล้วในไตรมาสนี้ โดยได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางต่าง ๆ ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้ และหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีพุ่งขึ้นขานรับกระแสเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)
บรรดาเทรดเดอร์คาดว่า มีโอกาส 60% ที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในเดือนมิ.ย.
หุ้นกลุ่มธนาคารบวก 1.0% และหนุนตลาดขึ้นมากที่สุด โดยหุ้นบีเอ็นพี พาริบาส์ เพิ่มขึ้น 1% หลังโกลด์แมน แซคส์ ปรับเพิ่มคำแนะนำลงทุนจาก "คงน้ำหนักการลงทุน" เป็น "ซื้อ"
หุ้นกลุ่มค้าปลีกพุ่งขึ้น 1.6% หลังหุ้นรูบิส ซึ่งเป็นบริษัทจำหน่ายน้ำมันของฝรั่งเศส พุ่ง 12.5% หลังวินเซนต์ โบลโลเร เพิ่มการถือหุ้นในรูบิสสู่ระดับมากกว่า 5%
หุ้นกลุ่มเดินทางและนันทนาการ เพิ่มขึ้น 0.7% หลังหุ้นฟลัทเทอร์ ซึ่งเป็นบริษัทพนันออนไลน์ พุ่ง 1.1% หลังคาดการณ์ว่าบริษัทจะมีกำไรเพิ่มขึ้นราว 30% ในปีนี้
หุ้นโอคาโด ซึ่งเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์ของอังกฤษ พุ่งขึ้น 3.2% หลังโอคาโด รีเทล ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนรายงานรายได้ไตรมาสแรกเพิ่มขึ้น 10.6%
หุ้นเอซอส ซึ่งเป็นผู้ค้าปลีกแฟชั่นออนไลน์ของอังกฤษพุ่งขึ้น 9.4% หลังเปิดเผยว่ากระแสเงินสดในช่วงครึ่งปีแรกปรับตัวดีขึ้นเนื่องจากความสามารถในการทำกำไรดีขึ้น
ตลาดหุ้นยุโรปจะปิดทำการในวันศุกร์นี้และวันจันทร์หน้าเนื่องในเทศกาลอีสเตอร์